ถือว่ามีข่าวคราวออกมาอย่างเรื่อยๆ สำหรับข่าวของลิโอเนล เมสซี่ ตอนนี้ข่าวแทบที่จะน้อยมากว่า เจ้าตัวจะอยู่ต่อ มีแต่ข่าวว่าเจ้าตัวจะเดินทางไปเล่นให้กับสโมสรไหนเท่านั้นเอง ตัวเต็งแรกที่มีแนวโน้มว่าจะได้ไปมากที่สุด คงหนีไม่พ้น แมนเชสเตอร์ ซิตี้ที่มีเป๊ป กวาดิโอลาร์ คุมทีมอยู่ ไหนจะมีผู้อำนวยการกีฬาที่สนิทสนมกันดีกับเมสซี่ ตอนที่เคยทำงานด้วยกันที่บาร์ซาด้วย นั่นทำให้โอกาสมาสูง อย่างไรก็ตามการมาของเมสซี่เอง ไม่ใช่ว่าอยากมาจะมาได้เลย แมนเชสเตอร์ ซิตี้ต้องเตรียมตัวด้วยเหมือนกัน เตรียมค่าตัวก้อนโต แม้จะมีข่าวว่า เมสซี่ มีสิทธิ์มาแมนเชสเตอร์ ซิตี้ได้แบบฟรี จากการแปลความบนเงื่อนไขสัญญาได้ แต่เอาเข้าจริงเมื่อนักเตะใจมาแล้วแบบนี้ แมนเชสเตอร์ ซิตี้อาจจะไม่ต้องจ่ายเงินสูงเท่ากับค่าฉีกสัญญาก็ได้ แต่ได้นักเตะแน่นอน เรามองว่าดีลนี้อาจจะมีการจ่ายค่าตัวกัน เพื่อให้สมเกียรติของเมสซี่ด้วย มองไว้ว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะต้องเตรียมเงินอย่างน้อย 180-200 ล้านยูโร เพื่อให้ดีลนี้เป็นดีลที่สูงสุดทำลายสถิติโลกของ เนย์มาร์ด้วย เตรียมเคลียร์พื้นที่ในทีม หากเมสซี่มาจริง แน่นอนว่านักเตะในทีมเตรียมเจอผลกระทบได้เลย โดยเฉพาะนักเตะเกมรุกที่อาจจะมีบางคนไม่ได้ไปต่อในทีม อาจจะต้องถูกขายออกไปเพื่อลดเพดานค่าเหนื่อย กับ ลดภาระเงินของสโมสร บวกกับหาที่ว่างให้เมสซี่นั่งในทีมได้ด้วย มองได้อีกมุมหนึ่ง นักเตะตัวรุกบางคนอาจจะต้องโดนขายแนบไปในสัญญาซื้อเมสซี่ด้วยซ้ำไป ก็ต้องมาลุ้นกันว่า หวยจะออกไปที่ใคร การดูแลครอบครัว เมสซี่ เป็นอีกหนึ่งนักเตะที่มีความรักครอบครัวอย่างมาก เค้าให้ความสำคัญกับเรื่องนี้มาเป็นอันดับต้นๆ…
ภาษา เรื่องสำคัญของการเล่นฟุตบอล
กีฬาฟุตบอลเป็นกีฬาประเภททีมที่ต้องเล่นกันฝั่งละ 11 คน หากรวมกับผู้จัดการทีม ทีมงานข้างสนามไปด้วย ก็เป็น 20 คนเลย ในแต่ละเกม เมื่อคนเยอะแบบนี้เรื่องสำคัญเลยก็คือ การสื่อสารระหว่างกัน ทั้งในหมู่นักเตะในสนาม และทีมงานนอกสนาม ซึ่งสิ่งที่จะเป็นสื่อกลางสื่อสารระหว่างกันก็คือ ภาษา นั่นเอง ภาษาแต่ละประเทศ ในการแข่งขันทีมแบบลีคสมัยนี้หากเราไปสำรวจดูจะเห็นว่าแต่ละทีมจะมีนักเตะต่างชาติรวมอยู่มากมาย บางทีมมีนักเตะต่างชาติเกือบค่อนทีมเลยทีเดียว เมื่อต่างคนต่างภาษามาอยู่รวมกันทำให้การสื่อสารระหว่างกันถือว่าเป็นเรื่องลำบากไม่น้อย หากนักเตะใช้ภาษาเดียวกันก็แล้วไป แต่ถ้าไม่ล่ะจะทำยังไงดี ภาษาอังกฤษ เครื่องมือกลาง เมื่อนักเตะที่มาจากทั่วทุกมุมโลกมาอยู่รวมกัน ภาษาอังกฤษ ซึ่งถือว่าเป็นภาษากลางของโลกถือว่าเป็นเรื่องสำคัญมากเลยทีเดียว เพราะนักเตะ ผู้จัดการทีม และ สตาฟทีมงานในยุโรปส่วนใหญ่จะพูดได้หมด ทำให้นักเตะที่มาจากทวีปอื่นจำเป็นต้องเรียนรู้ภาษาอังกฤษอย่างรวดเร็วเพื่อสื่อสารกันในสนามและนอกสนาม ภาษาฟุตบอล เครื่องมือสากล แต่ถ้าหากว่านักเตะยังไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้คล่องล่ะ จะสื่อสารกันในสนามอย่างไร ยิ่งตำแหน่งกองหลังด้วยแล้วหากสื่อสารผิดนี่หมายถึงเสียประตูได้เลย แน่นอนว่าภาษามือก็เป็นเครื่องมือที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งที่ช่วยได้ หรืออาจจะมีการสร้างคำที่รู้กันในหมู่นักเตะเพื่อเอาไว้สื่อสารกันในสนาม(แถมฝ่ายตรงข้ามไม่รู้ด้วยว่าพูดว่าอะไร) นอกจากนั้นยังมีการนำภาษาฟุตบอลเข้ามาใช้ด้วย เช่น การส่งบอลหนักเบา การขยิบตาให้สัญญาณ และอวจนภาษาอื่นที่คิดกันขึ้นมา ไม่เชื่อเราลองไปดูเกมลีคดูสิ ว่านักเตะที่มาจากต่างทวีปเค้าทำยังไงถึงจะสื่อสารกันได้
ปีศาจแดง กับ ปีศาจแดงดำ ใครอาการหนักกว่ากัน
ใครที่ติดตามฟุตบอลยุโรปช่วงทศวรรษที่ 90 หนึ่งในคู่แข่งขันที่เจอกันทีไรมีประเด็นให้พูดถึงตลอดนั่นก็คือ ปีศาจแดงทั้งสองตน ตนแรกเป็นปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จากเกาะอังกฤษ อีกตนเป็นปีศาจแดงดำ เอซี มิลาน จากอิตาลี การเจอกันของทั้งสองเกมที่น่าจดจำมากที่สุดคงเป็นเกมที่มาของชื่อ ผีกาก้า บอกเลยว่าแฟนผียังหลอนชื่อนี้ทุกครั้งที่นึกถึง ไม่น่าเชื่อว่าผ่านเวลาไปเพียงแค่หลัก 10 ปี ปีศาจทั้งสองต่างตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกันเลย เรามาดูกันว่าปีศาจที่เคยรุ่งเรือง น่ากลัว เกรียงไกรทั้งสองตน ใครอาการหนักกว่ากันในตอนนี้ ผู้จัดการทีม อย่างหนึ่งที่เหมือนกันแบบไม่ได้ตั้งใจ เป็นเรื่องผู้จัดการทีม ที่ตอนนี้ผู้จัดการทีมของทั้งสองคน ดูเหมือนจะไม่ค่อยเหมาะกับการเอาทีมกลับมาสักเท่าไร ฝั่งปีศาจแดงใช้บริการโอเล่ กุนนาร์ โซลชา ที่เอาแต่ยิ้มไปวันๆแบบดูไร้อนาคตมืดหม่นมาก ฝั่งเอซี มิลานไม่แตกต่างกัน การทำทีมจากฝีมือการบริหารของสเตฟาโน่ ปิโอเรี่ ก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันเท่าไร สามวันดี สี่วันไข้ พร้อมจะแพ้ได้ทุกทีมที่เจอว่าจะเป็นเกมลีค เกมบอลถ้วยในประเทศ จนถึงต่างประเทศ หากจะให้เทียบกันจริง เราขอยกผลงานของ สเตฟานโน่ ปิโอเรี่ ดีกว่า นักเตะของทีม ปัจจัยต่อมา เป็นเรื่องนักเตะของทีม ฝั่งปีศาจแดงแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ใช้บริการของนักเตะแบบเด็กเยาวชน อายุน้อยเสียเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผลงานไม่สม่ำเสมอ บางนัดเล่นดีมาก…
การปฏิรูป ฟุตบอลไทย ทำแล้วอย่าทิ้ง
หลังจากที่ผ่านสถานการณ์ “ฟ้าเปลี่ยนสี” มาได้สักระยะแน่นอนว่าตอนนี้สมาคมฟุตบอลภายใต้การบริหารของทีมชุดใหม่นั้น ต้องบอกว่าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงทั้งผลงานของทีมชาติ และการบริหารจัดการไปบ้างแล้ว แต่สิ่งหนึ่งที่เหล่าแฟนบอลอยากจะเห็นจริงๆ และเป็นสิ่งที่รอมานานก็คือคำว่า “การปฏิรูปวงการฟุตบอล” แผนพัฒนา 10 ปี ต้องมีไว้เป็นแนวทาง อย่างแรกที่บิ๊กอ็อด นายกสมาคมฟุตบอลได้ออกมาบอกเมื่อเร็วๆนี้ในการปฏิรูปวงการฟุตบอลไทยก็คือ เรื่องของแผนพัฒนาฟุตบอล 10 ปี โดยจะมีการนำนักวิชาการ และผู้ที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลมาหารือร่วมกันเพื่อรวมกันเขียนแผนพัฒนาไปทางเดียวกัน ซึ่งอันนี้ถือว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว ที่ผ่านมาวงการฟุตบอลไทยเราพัฒนาไปอย่างไร้ทิศทางกันพอสมควร ทั้งแนวทางการเล่นของทีมชาติ การพัฒนาลีค หากมีการเขียนแผนแม่บทไว้เป็นแนวทางในการพัฒนาก็ถือว่าเป็นเรื่องดีทีเดียว ทุก ฟุตบอล ต้องพัฒนาไปพร้อมกัน สิ่งต่อไปที่ทางสมาคมฟุตบอลต้องทำไปพร้อมกันก็คือ การพัฒนาทุกฟุตบอลให้ดีขึ้นไปพร้อมกัน ไม่ว่าจะเป็นฟุตบอลชายหรือหญิง ฟุตบอลระดับเยาวชนในระดับต่างๆ ฟุตบอลลีคในทุกระดับ ฟุตบอลอาชีพ ฟุตบอลสมัครเล่น ฟุตบอลสนามใหญ่ ฟุตซอล ฟุตบอลชายหาด ทั้งหมดนี้ต้องถูกพัฒนาไปด้วยกัน จริงอยู่ว่าระดับของการพัฒนาอาจจะไม่เท่ากัน แต่หากได้พัฒนาไปทั้งหมดแล้วเชื่อว่า ต้องมีสักอย่างสักรายการที่เราประสบความสำเร็จแน่นอน อย่างน้อยๆผลงานฟุตซอลชายทีมชาติไทยก็อยู่ต้นๆของเอเชียแล้ว สิ่งสำคัญคือความสม่ำเสมอ และต่อเนื่อง การพัฒนาในระยะยาวอย่างนี้ สิ่งที่สำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าพัฒนาในเรื่องไหน แล้วได้อะไร มันสำคัญตรงที่ว่าเราจะพัฒนาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องได้หรือเปล่า หลายครั้งที่เราพัฒนาได้ดีก็ทำต่อไป แต่พอเริ่มไม่ดีเราก็เลิก แน่นอนว่าครั้งนี้ถ้าไม่อยากให้เป็นแบบนั้น แฟนบอลอย่างเราเอาใจช่วยด้วย อดทนไปด้วย

รามอส อาดูริซ เจ๋งทาบสถิติยิงตลอด 14 ซีซั่นไม่แพ้เมสซี่
โลกลูกหนังมีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในทุก ๆ ปีเฉกเช่นเดียวกับปีนี้ ทั้ง ลิโอเนล เมสซี่ แข่งกันยิงประตูกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ส่วนฟอร์มสุดร้อนแรงของ อาริตซ์ อาดูริซ คงไม่แตกต่างกันนัก ใครจะไปเชื่อว่าหอกวัย 37 กะรัต จะกลับมายิงประตูอย่างเป็นกอบเป็นกำในการกลับมาช่วยทีมคำรบสาม ด้วยผลงานที่ยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้ เทียบชั้นอย่างนักเตะดาวเด่น ของบาร์เซโลน่าอย่าง ลิโอเนล เมสซี, รวมไปถึง เซร์คิโอ รามอส จากสโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด อาริตซ์ อาดูริซ กองหน้าตัวเก๋า แอธเลติก บิลเบา ทาบสถิติ ลิโอเนล เมสซี่ และ เซร์คิโอ รามอส หลังซัดจุดโทษให้ทีมชนะ คิโรน่า เมื่อวันจันทร์ โดยกลายเป็นแข้งรายที่ 3 ที่ยิงได้ 14 ซีซั่นติดต่อกัน ในลา ลีกาอาริตซ์ อาดูริซ หัวหอกตัวเก๋า แอธเลติก บิลเบา สโมสรแห่งศึกลา ลีกา สเปน ทำสถิติทาบ…

แรชฟอร์ด เปิดโต๊ะเจรจา แมนฯ ยูไนเต็ด เตรียมต่อสัญญาใหม่ รับค่าเหนื่อยเท่าตัว
“มาร์คัส แรชฟอร์ด” นักเตะศูนย์หน้าของ “ปิศาจแดง” แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังอยู่ในช่วงเจรจาสัญญาฉบับใหม่กับทางสโมสร ซึ่งในการเซ็นสัญญาฉบับใหม่จะทำให้เขาได้รับค่าเหนื่อยมากกว่าเดิม 2 เท่า นักเตะแข้งฝีมือดีวัย 21 ปี กลับมาเล่นได้อย่างเข้าฟอร์มอีกครั้งนับตั้งแต่ที่กุนซือคนใหม่เข้ามาบริหารทีม โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ เข้ามาคุมทีมปีศาจแดงแบบรักษาการ ขณะที่สัญญาฉบับปัจจุบันของเขากำลังจะหมดลง เมื่อสิ้นสุดฤดูกาลนี้ ทำให้ทางสโมสรได้เริ่มต้นการเจรจาเกี่ยวกับสัญญาฉบับใหม่ซึ่งจะให้ค่าเหนื่อยมากกว่า 150,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ บวกกับโบนัสซึ่งรวมแล้วมากกว่าเดิมถึงเท่าตัวเลยทีเดียว หากย้อนไปก่อนหน้านี้ แมนฯ ยูไนเต็ด ก็เพิ่งจะต่อสัญญากับ อ็องโตนี่ มาร์กซิอัล ตัวรุกชาวฝรั่งเศสออกไปอีก 5 ปี โดยที่เขาได้รับค่าเหนื่อยอยู่ที่ราว ๆ 200,000 ปอนด์ต่อสัปดาห์ ขณะที่ โซลชาร์ ก็ได้กล่าวว่าทางสโมสรมีความตั้งใจที่จะต่อสัญญากับผู้เล่นอีกหลายคน แต่ก็ยังไม่สามารถให้ข้อมูลเพิ่มเติมอะไรได้มากนัก เนื่องจากเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้โดยตรง สำหรับ แรชฟอร์ด นั้นเคยตกเป็นข่าวกับสโมสรฟุตบอลชื่อดัง เรอัล มาดริด ที่ให้ความสนใจดึงตัวไปร่วมทีม แต่ก็ดูเหมือนว่าเจ้าตัวอยากที่จะเล่นให้กับทีมปีศาจแดงที่เขาก้าวขึ้นมาจากอคาเดมี่ต่อไปมากกว่า ทำให้มีโอกาสสูงที่การเซ็นสัญญาฉบับใหม่ที่จะเกิดขึ้นในเร็ว ๆ นี้กับปิศาจแดง

รูนี่ย์ เผยชื่อกุนซือที่คิดว่าเหมาะกับ ปิศาจแดง หาก โซลชาร์ ไม่ได้คุมทีมถาวร
“เวย์น รูนี่ย์” อดีตแข้งกองหน้าของทีมฟุตบอลดัง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เชื่อว่า “เมาริซิโอ โปเช็ตติโน่” กุนซือ ท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ เหมาะสมที่สุดที่จะเข้ามาคุมทีมปีศาจแดง ถ้าหากว่า โอเล่ กุนนาร์ โซลชาร์ ไม่ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นกุนซือถาวร โซลชาร์ กุนซือชั่วคราวของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ดกำลังพาทีมปิศาจแดงทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่เข้ามารับตำแหน่งนี้ แต่อย่างไรก็ตามก็ยังไม่มีการยืนยันใด ๆ จากทางสโมสรว่า ผู้จัดการทีมชาวนอร์เวย์รายนี้จะได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเป็นการถาวรหรือไม่ หลังจากที่เข้ามาคุมทีมแบบรักษาการชั่วคราวแทนที่ โชเซ่ มูรินโญ่ ที่ถูกปลดพ้นตำแหน่งไป ล่าสุด รูนี่ย์ ได้แสดงความคิดเห็นถึงเรื่องนี้ว่า “มันคงจะเยี่ยมไปเลยถ้า โอเล่ สามารถสานต่อผลงานแบบนี้เอาไว้ได้ และได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่แบบเป็นการถาวร” “แต่ถ้าหากว่าไม่เป็นเช่นนั้น หากทางสโมสรมองหาคนอื่น ผมก็คิดว่าเป็น โปเช็ตติโน่ คนนี้แหละคือคนที่ใช่!!” สำหรับสโมสรฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด สามารถเก็บได้ถึง 22 แต้มในศึก พรีเมียร์ ลีก จากการลงสนามใน 8 เกม ภายใต้การคุมทีมของ โซลชาร์ ขณะที่ย้อนไปก่อนหน้านั้น…